Netflix เสนอซื้อ Warner Bros มูลค่า 83 พันล้านดอลลาร์: เจาะลึกดีล ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ และโอกาสเทรดเชิงกลยุทธ์

เมื่อ Netflix และ WBD เข้าสู่การเจรจาแบบเอกสิทธิ์ เวทีนี้จึงเต็มไปด้วยความน่าสนใจ ทั้งการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแล การถกเถียงจากผู้ถือหุ้น และความเป็นไปได้ที่ Paramount จะยื่นข้อเสนอเงินสดตรงถึงผู้ถือหุ้น WBD โดยมีการคาดการณ์ว่าอาจเสนอที่ราคา 30 ดอลลาร์ต่อหุ้น

ฮอลลีวูดและวงการสื่อโดยรวมแสดงความกังวลอย่างหนัก ถึงขั้นเรียกว่านี่คือ “จุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดฮอลลีวูด” กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยืนยันแล้วว่าจะสอบสวนการควบรวมครั้งนี้ แม้ความกังวลจะมีอยู่จริง แต่แนวคิดที่ว่า Netflix จะยุติการฉายภาพยนตร์ในโรงนั้นดูเกินจริง เพราะแท้จริงแล้ว Netflix คาดว่าจะเพิ่มการจัดจำหน่ายในโรงสำหรับบางเรื่อง ไม่ใช่ตัดออกทั้งหมด

ดีลนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

Netflix ประกาศความสนใจซื้อ WBD อย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน เดิมทีไม่มีผู้เล่นรายใดโดดเด่น และจนถึงสัปดาห์ก่อน Paramount ยังถูกมองว่าเป็นตัวเต็ง โดยตลาดคาดการณ์ให้ Netflix มีโอกาสเพียง 7% ในการปิดดีลนี้

ความประหลาดใจเกิดขึ้นเมื่อ Netflix เสนอราคา 27.75 ดอลลาร์ต่อหุ้น (เงินสด + หุ้น)

ตั้งแต่ปลายตุลาคมที่มีข่าวหลุดว่า Netflix “กำลังพิจารณา” ยื่นซื้อ หุ้น Netflix ถูกกดดันจนราคาลดลงใกล้ 100 ดอลลาร์ และทำผลงานแย่กว่า S&P500 และ NAS100

นักลงทุน Netflix ต้องการความชัดเจนในเรื่อง:

• ทิศทางกลยุทธ์และการจัดการความเสี่ยงในการดำเนินงาน
• โครงสร้างการระดมทุนและผลกระทบต่อฐานะการเงิน
• การประเมินมูลค่าที่ต้องสูงกว่าคู่แข่ง - ข้อเสนอครั้งนี้ได้ตอบคำถามทั้งหมด พร้อมสร้างบรรทัดฐานใหม่หลายประการ

จุดเด่นของข้อเสนอ Netflix

1. 1แพ็คเกจการเงินเกือบทำลายสถิติ – ดีล 83 พันล้านดอลลาร์จะใช้เงินกู้สะพาน 59 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในวงเงินสูงสุดที่เคยจัดหา
2. การประเมินมูลค่า WBD ที่สูงลิ่ว – ข้อเสนอประเมิน WB/HBO ที่ 25 เท่าของ EV/EBITDA ซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดของดีล M&A ในวงการสื่อ และถือเป็นมูลค่าที่ดึงดูดผู้ถือหุ้น WBD อย่างมาก
3. ค่าปรับยกเลิกดีลที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ – Netflix ต้องจ่าย 5.8 พันล้านดอลลาร์หากถอนตัวหรือไม่ผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับ คิดเป็น 8% ของมูลค่าหุ้น ซึ่งสะท้อนความมั่นใจของ Netflix ในการปิดดีล
4. แรงกดดันต่อผู้ถือหุ้น WBD – หาก WBD ถอนตัว ต้องจ่ายค่าปรับ 2.8 พันล้านดอลลาร์ และหาก Paramount ยื่นข้อเสนอใหม่ ต้องครอบคลุมจำนวนนี้ด้วย

ทำไมราคาหุ้น WBD ต่ำกว่าข้อเสนอ

ส่วนต่างนี้สะท้อน:

• ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ – การที่สตรีมเมอร์รายใหญ่ซื้อคู่แข่งจะถูกตรวจสอบเข้มงวด
• ความเป็นไปได้ของข้อเสนอจากคู่แข่ง – Paramount อาจกลับมาด้วยข้อเสนอเงินสดที่สูงกว่า
• ประวัติการล้มเหลวของดีลใหญ่ – เช่น Comcast/Time Warner, AT&T/T-Mobile, Viacom/CBS
• ความเสี่ยงด้านเวลา – แม้ต้องการปิดดีลเร็ว แต่กระบวนการอนุมัติอาจลากยาวถึงปี 2026

โอกาสเทรดเชิงกลยุทธ์

นักเทรดที่เน้นเหตุการณ์อาจมอง WBD เป็นโอกาสสองทาง:

กลยุทธ์ Short WBD

หากเชื่อว่าดีลล้มเหลวเพราะกฎระเบียบหรือเสียงโหวต หุ้น WBD อาจร่วงกลับไปที่ 20 ดอลลาร์

กลยุทธ์ Long WBD

หากเชื่อว่าดีลผ่านการอนุมัติหรือ Paramount กลับมาด้วยข้อเสนอที่ดีกว่า หุ้น WBD อาจปรับขึ้นสู่ 27 ดอลลาร์ แต่ต้องรับความเสี่ยงเรื่องเวลาที่เงินทุนถูกผูกไว้หลายเดือน

ปฏิกิริยาของผู้ถือหุ้น Netflix

ดีล 80 พันล้านดอลลาร์นี้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และสร้างความเห็นต่าง:

• บางรายกังวลว่ารายได้ HBO/WB จะถูกกินหากรวมเข้ากับระบบ Netflix มากเกินไป
• บางรายห่วงความเสี่ยงในการดำเนินงาน ภาระหนี้ และการตรวจสอบที่อาจยืดเยื้อหลายปี

ในทางกลับกัน Netflix มีวิสัยทัศน์ชัดเจน: ใช้คลังคอนเทนต์ WB/HBO กระจายผ่านเครือข่ายทั่วโลก เสริมความเป็นผู้นำสตรีมมิ่ง

Netflix ระบุว่าดีลจะเพิ่มกำไรตั้งแต่ปีที่สอง โดยอิงจาก:

• ซินเนอร์ยี่ด้านคอนเทนต์ขนาดใหญ่
• เส้นทางการปล่อยคอนเทนต์ที่แข็งแกร่งขึ้น
• อำนาจกำหนดราคาทั่วโลกที่มากขึ้น
• โปรไฟล์รายได้ที่หลากหลาย รวมถึงโฆษณา - หากสำเร็จ นี่จะเป็นการซื้อกิจการที่ทรงอิทธิพลที่สุดในรอบทศวรรษ

บทสรุป

Netflix พลิกความคาดหวังด้วยการเดิมพันครั้งใหญ่เพื่อครองหนึ่งในเครื่องจักรคอนเทนต์ทรงพลังที่สุดของฮอลลีวูด ข้อเสนอสูงลิ่ว การเงินมหาศาล เส้นทางกฎระเบียบที่ไม่แน่นอน และผลกระทบเชิงกลยุทธ์ต่อวงการสื่อทั่วโลกนั้นลึกซึ้ง

แม้มีความเสี่ยงสูง แต่หาก Netflix ทำสำเร็จ ผลประโยชน์เชิงกลยุทธ์และซินเนอร์ยี่อาจคุ้มค่า และนิยามยุคใหม่ของการครองตลาดสตรีมมิ่ง