Gold Outlook แนวโน้มราคาทองคำ: ความผันผวนพุ่งสูง – ต้องจัดการความเสี่ยงให้ดี!

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มนักลงทุนฝั่งขาขึ้นใน ตลาดทองคำ ต้องเผชิญแรงต้านอย่างหนักจากความผันผวนที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วโดยมีปัจจัยหลักจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีนและเหตุการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลกอย่างไรก็ตามตลาดยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลดดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้รวมถึงการถือครองETFในระดับสูงซึ่งยังคงเป็นแรงหนุนระยะกลางถึงระยะยาวที่แข็งแกร่ง

นอกเหนือจากการติดตามความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ–จีนนักลงทุนยังให้ความสนใจกับข้อมูลCPIสหรัฐฯที่จะประกาศในวันศุกร์นี้และผลประกอบการของบริษัทต่างๆซึ่งอาจสร้างแรงกดดันระยะสั้นต่อราคาทองคำ

มุมมองทางเทคนิค : ฝั่งขาขึ้นเริ่มอ่อนแรง โมเมนตัมชะลอตัว

บนกราฟรายวันของXAUUSDฝั่งขาขึ้นยังคงแข็งแกร่งจนถึงวันศุกร์ที่ผ่านมาโดยราคาทองคำระหว่างวันพุ่งแตะระดับสูงสุดที่4,379ดอลลาร์ก่อนเผชิญแรงขายหนักในช่วงตลาดยุโรปและเปิดตลาดสหรัฐฯส่งผลให้ราคาหลุดระดับ4,200ดอลลาร์และปิดลดลง1.8%ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่วันขอบคุณพระเจ้าปีที่แล้ว

แม้จะปรับตัวลงในวันศุกร์แต่ราคาทองคำยังคงเพิ่มขึ้น5.7%ตลอดสัปดาห์ถือเป็นการปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่10ติดต่อกันสะท้อนว่าทิศทางขาขึ้นระยะกลางยังคงแข็งแกร่งแม้จะมีแรงขายเพื่อปรับฐานในระยะสั้น

สัปดาห์นี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวบริเวณ4,250–4,260ดอลลาร์หากสามารถปิดเหนือระดับ4,300ดอลลาร์ได้จะเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโมเมนตัมขาขึ้นรอบใหม่อย่างไรก็ตามRSIอยู่ในเขตซื้อมากเกินไปและราคาห่างจากเส้นค่าเฉลี่ย20และ50วันมากขึ้นทำให้ความเสี่ยงในการปรับฐานระยะสั้นเพิ่มขึ้นหากราคาย่อตัวลงต่อโซน4,200–4,208ดอลลาร์อาจเป็นแนวรับสำคัญ

ดีมานด์สินทรัพย์ปลอดภัยชะลอชั่วคราว แต่แรงหนุนจากการลดดอกเบี้ยยังแข็งแกร่ง

ธีมการลงทุนหลักของทองคำยังไม่เปลี่ยนแปลงได้แก่ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยและการกระจายทุนสำรองของธนาคารกลางซึ่งยังคงเป็นแรงหนุนระยะยาวความผันผวนระยะสั้นสะท้อนอารมณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงเร็วจากเหตุการณ์มหภาค

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ–จีนยังคงเป็นจุดโฟกัสหลักทั้งสองฝ่ายพยายามรักษาสมดุลระหว่างการแสดงความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นในการเจรจาเพื่อรักษาความน่าเชื่อถือทางการเมืองโดยไม่สร้างต้นทุนทางเศรษฐกิจ

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอดีตประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าภาษี100%เป็นสิ่งที่“ไม่ยั่งยืน”และยืนยันว่าจะพบกับผู้นำจีนในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้าคำกล่าวนี้ช่วยลดความตึงเครียดในตลาดชั่วคราวส่งผลให้นักลงทุนขายทำกำไรในทองคำอย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนยังคงสูงจนกว่าจะมีการเจรจาแบบพบหน้ากันนักลงทุนยังคงรอความชัดเจนจากสัญญาณใหม่ในการเจรจาซึ่งยังคงหนุนแรงซื้อพื้นฐาน

ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ยังหนุนฝั่งขาขึ้นความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล–ปาเลสไตน์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นและการเจรจาหยุดยิงที่ยังไม่คืบหน้ารวมถึงความล่าช้าในการเจรจาระหว่างรัสเซีย–ยูเครนยังคงหนุนดีมานด์สินทรัพย์ปลอดภัยแม้ผลกระทบจากการปิดรัฐบาลสหรัฐฯจะถูกตลาดรับรู้ไปแล้วแต่การลงคะแนนเสียงACAในสัปดาห์นี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนหากนำไปสู่การเปิดรัฐบาลอีกครั้งอาจเพิ่มความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงและกดดันราคาทองคำในระยะสั้นแต่หากยังคงชะงักดีมานด์สินทรัพย์ปลอดภัยจะยังคงหนุนราคา

นอกเหนือจากความเสี่ยงทางการเมืองความเปราะบางของระบบการเงินก็ส่งผลต่ออารมณ์ตลาดเช่นกันสัปดาห์ที่ผ่านมาZion Bankรายงานการตั้งสำรองหนี้เสียจำนวนมากทำให้เกิดความกังวลเรื่องความเสี่ยงด้านเครดิตและผลักดันราคาทองคำขึ้นชั่วคราวอย่างไรก็ตามเมื่อประเมินว่าเหตุการณ์นี้ไม่เป็นภัยต่อระบบโดยรวมแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยจึงค่อยๆลดลงและราคาทองคำรวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลง

ในระดับมหภาคสัญญาณจากเฟดยังคงหนุนความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยในสุนทรพจน์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพาวเวลระบุว่าตลาดแรงงานเริ่มเย็นลงอย่างชัดเจนและบ่งชี้ว่าการลดขนาดงบดุลจะสิ้นสุดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าซึ่งเป็นสัญญาณของนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น
รายงานBeige Bookเดือนตุลาคมยังระบุแรงกดดันทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องโดยมีความเสี่ยงต่อการจ้างงานและเงินเฟ้อทำให้ตลาดกังวลเรื่องภาวะเงินฝืดและเงินเฟ้อพร้อมกัน(stagflation)ซึ่งยังคงหนุนความน่าสนใจของทองคำในระยะกลางถึงระยะยาว

ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย25จุดพื้นฐานในเดือนตุลาคมและบางส่วนคาดว่าจะลดอีก50จุดในเดือนธันวาคมดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯที่เคลื่อนไหวบริเวณ98.5ยังเป็นแรงหนุนเพิ่มเติมสำหรับทองคำที่อิงกับดอลลาร์ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน

ETF ยังร้อนแรง – ศักยภาพขาขึ้นยังไม่หมด

อีกหนึ่งตัวชี้วัดของแรงขับเคลื่อนราคาทองคำคือการถือครองETFซึ่งสะท้อนการมีส่วนร่วมของนักลงทุนรายย่อยปัจจุบันการถือครองยังต่ำกว่าระดับสูงสุดในปี2020และยังไม่กลับไปสู่ระดับปี2022กล่าวคือแม้ราคาทองคำจะทำจุดสูงสุดใหม่หลายครั้งแต่โครงสร้างตลาดยังไม่แสดงสัญญาณร้อนแรงเกินไป

ตลอดปีที่ผ่านมาการซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องจากธนาคารกลางในตลาดเกิดใหม่เป็นแรงขับเคลื่อนหลักขณะที่นักลงทุนรายย่อยมักเข้ามาในช่วงท้ายของเทรนด์การปรับฐานระยะสั้นจึงอาจเป็นโอกาสที่เหมาะสมในการเข้าลงทุนเพิ่มเติมอย่างมีเหตุผล

โดยรวมแล้วการคลี่คลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีนได้ลดดีมานด์สินทรัพย์ปลอดภัยลงส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลงอย่างไรก็ตามความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยของเฟดการซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องจากธนาคารกลางและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นแรงหนุนที่แข็งแกร่งสำหรับการลงทุนฝั่งขาขึ้นในระยะกลางถึงระยะยาว

อย่างไรก็ตามต้องระวังความเสี่ยงจากความผันผวนระยะสั้นที่เพิ่มขึ้นจากการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและการถือครองฝั่งขาขึ้นที่กระจุกตัวหากอารมณ์ตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันหรือมีการขายทำกำไรจำนวนมากอาจนำไปสู่การปรับฐานที่รุนแรงขึ้น

จับตา CPI และผลประกอบการ – ทองคำเผชิญแรงทดสอบคู่

ในสัปดาห์นี้นอกจากการอัปเดตความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีนและความคืบหน้าเรื่องการเปิดรัฐบาลผลประกอบการไตรมาส3ของบริษัทในสหรัฐฯจะเข้าสู่ช่วงพีคพร้อมกับข้อมูลเงินเฟ้อ

ตลาดคาดการณ์ว่าCPIหัวข้อหลักของเดือนกันยายนจะเพิ่มขึ้นจาก2.9%เป็น3.1%ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในรอบกว่า18เดือนขณะที่CPIพื้นฐานคาดว่าจะทรงตัวที่3.1%เมื่อเทียบกับปีก่อนหากตัวเลขไม่สูงเกินคาดเช่นCPIพื้นฐานแตะ3.5%ก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงมุมมองของตลาดต่อการลดดอกเบี้ย25จุดในเดือนตุลาคมอย่างไรก็ตามเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอาจกดดันราคาทองคำระหว่างวัน

ผลประกอบการจะเป็นตัวชี้วัดอารมณ์ตลาดโดยกลุ่มการเงินได้รับประโยชน์จากความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยและกิจกรรมM&Aที่กลับมาอีกครั้งโดยผลประกอบการล่าสุดส่วนใหญ่ดีกว่าคาดสัปดาห์นี้บริษัทใหญ่เช่นNetflix (NFLX), Tesla (TSLA)และIntel (INTC)จะรายงานผลประกอบการด้วยความไม่แน่นอนจากการปิดรัฐบาลและผลกระทบจากAIต่อแรงงานนักลงทุนจึงให้ความสำคัญกับแนวโน้มธุรกิจจากผู้บริหาร

ผลประกอบการแข็งแกร่งอาจลดดีมานด์สินทรัพย์ปลอดภัยและกดดันราคาทองคำในระยะสั้นแต่หากผลประกอบการอ่อนแออาจทำให้เงินทุนไหลกลับเข้าสู่ทองคำและสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงอื่นๆ