Gold Outlook แนวโน้มทองคำ: ฝั่ง Bull กลับมาคึกคักจากความคาดหวังลดดอกเบี้ย ซื้อเมื่อย่อตัวกลับมาเป็นกลยุทธ์หลัก

Oสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาสินทรัพย์โลหะมีค่าปรับตัวขึ้น โดยทองคำโดดเด่นที่สุด แรงหนุนหลักมาจากการปรับความคาดหวังดอกเบี้ยสหรัฐฯ อย่างรวดเร็ว หลังเจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณผ่อนคลายต่อเนื่อง ความเป็นไปได้ในการลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคมพุ่งสูง และตลาดคาดว่าประธานเฟดคนต่อไปอาจมีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น ทั้งหมดนี้ช่วยหนุนฝั่ง Bull อย่างชัดเจน

Wหลังวันหยุด Thanksgiving ตลาดกลับสู่โหมด “ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล” โดยสัปดาห์นี้นักเทรดจะจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ISM Services PMI, ข้อมูลจ้างงาน ADP และ Core PCE Inflation เนื่องจากเฟดเข้าสู่ช่วง Blackout แม้การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของข้อมูลก็อาจสร้างแรงกระเพื่อมใหญ่ในตลาด

มุมมองทางเทคนิค: Bull กลับมาคุมเกม ระดับ $4,250 สำคัญ

จากกราฟรายวัน XAUUSD แรงซื้อทองกลับมาชัดเจนเมื่อสัปดาห์ก่อน ปรับขึ้นกว่า 3.8% แม้ตลาดคาดว่าช่วงวันหยุดจะซบเซา แต่แรงซื้อวันศุกร์ทำลายสมมติฐานนั้น ดันราคาทะลุ $4,200 ได้อย่างมั่นคง

เมื่อวันหยุดผ่านไปและปัญหาทางเทคนิคของ CME ได้รับการแก้ไขแล้ว การเคลื่อนไหวของราคาจะมีความชัดเจนมากขึ้นในสัปดาห์นี้ ขณะนี้ราคาทองกำลังทดสอบระดับสูงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ $4,250 หากสามารถปิดเหนือระดับนี้ได้ จะเปิดทางไปสู่ $4,300 และอาจทดสอบจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $4,381

ในอีกด้าน หากมีการขายทำกำไรจากระดับสูง แนวรับสำคัญอยู่ที่ประมาณ $4,200 และถัดไปที่ $4,130 โดยรวมภาพทางเทคนิคยังเป็นบวก แต่ความแข็งแกร่งของการทะลุแนวต้านและความเชื่อมั่นของตลาดยังต้องรอการยืนยันจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้

ความคาดหวังลดดอกเบี้ยเฟดพุ่ง หนุนทองต่อเนื่อง

แรงเร่งขึ้นของทองคำเกิดจากการเปลี่ยนแปลงความคาดหวังนโยบายเฟดอย่างชัดเจน หลังผู้ว่าการ Waller และประธานเฟดนิวยอร์ก Williams สนับสนุนการลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคม ทำให้ตลาดปรับมุมมองใหม่

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็สอดคล้องกับแนวโน้มนี้ ยอดค้าปลีกชะลอ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงสู่ 88.7 ต่ำสุดตั้งแต่เมษายน Beige Book ชี้การจ้างงานเย็นลง ชั่วโมงทำงานลด และมีการปลดพนักงานบางส่วน ขณะที่เงินเฟ้อแม้ชะลอแต่ยังเหนียวแน่น

ภายใต้ภาพนี้ ความเป็นไปได้ลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคมพุ่งแตะ 90% ซึ่งหมายถึงอัตราดอกเบี้ยแท้จริงต่ำลง หนุนสินทรัพย์ไร้ผลตอบแทนอย่างทองคำ

ดอลลาร์สะท้อนการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยดัชนีดอลลาร์ถูกกดดัน ขณะที่ญี่ปุ่นส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเดือนธันวาคม (โอกาสกว่า 60%) หากเกิดขึ้นจริงจะหนุนเงินเยนและกดดันดอลลาร์เพิ่ม ซึ่งเป็นบวกต่อทองคำ

ท่าทีการคลังเชิงรุกของ Sanae Takahashi ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินนโยบาย Abenomics ต่อไป ขณะที่ Ueda ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการขึ้นดอกเบี้ยเดือนธันวาคม (โอกาสปัจจุบันมากกว่า 60%) ซึ่งเพิ่มโอกาสให้เงินเยนฟื้นตัว หากเกิดขึ้นจริง จะยิ่งกดดันดอลลาร์และช่วยหนุนราคาทองคำเพิ่มเติม

Hassett จ่อขึ้นแท่น ประธานเฟดใหม่แนวโน้มผ่อนคลาย

รมว.การคลัง Yellen ระบุว่าประธานาธิบดี Trump อาจประกาศชื่อประธานเฟดคนใหม่ก่อนคริสต์มาส โดย Hassett ผู้อำนวยการ NEC ปัจจุบันและผู้สนับสนุนแนวทางผ่อนคลายของ Trump เป็นตัวเต็ง ตลาดให้โอกาสราว 64%

หาก Hassett ขึ้นแท่น คาดว่าจะรักษาดอกเบี้ยต่ำกว่ายุค Powell ทำให้ตลาดเพิ่มเดิมพันการลดดอกเบี้ย และตั้งคำถามเรื่องความเป็นอิสระของเฟด ซึ่งเป็นบวกต่อทองคำ

นอกจากนี้ ความกังวลเรื่องการลดดอกเบี้ยรุนแรงและหนี้สหรัฐฯ ขยายตัว รวมถึงการซื้อทองของธนาคารกลาง ช่วยสร้างฐานรองรับทองในระยะสั้น

สัปดาห์สุดท้ายก่อนประชุมเฟด: ทองจะไปต่อได้หรือไม่?

สรุปแล้ว ฝั่งกระทิงของทองคำพุ่งแรงในช่วงนี้ จากแรงหนุนความคาดหวังลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคม ดอลลาร์อ่อน และความเป็นไปได้ที่ประธานเฟดคนใหม่จะมีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น ธนาคารกลางยังคงซื้อทองต่อเนื่อง ขณะที่ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ยังอยู่ ช่วยเสริมแรงหนุนเพิ่มเติม

ในสภาพแวดล้อมดอกเบี้ยต่ำและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ไม่แน่นอน แนวโน้มทองคำยังคงเป็นขาขึ้น โดยกลยุทธ์ “ซื้อเมื่อย่อตัว” ยังคงเด่น การปรับฐานระยะสั้นมีแนวโน้มจำกัด

สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายก่อนการประชุมเฟดเดือนธันวาคม เจ้าหน้าที่เฟดจะเข้าสู่ช่วง Blackout ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจมีผลกระทบต่อตลาดมากขึ้น ข้อมูลสำคัญที่ต้องจับตา:

• วันพุธ: ADP Payrolls เดือนพฤศจิกายน และ ISM Services PMI
• วันศุกร์: Core PCE เดือนกันยายน (ประกาศล่าช้า)

คาดว่า ADP จะเพิ่มเพียง 10,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าก่อนหน้าที่ 42,000 ขณะที่ Core PCE คาดลดจาก 2.9% YoY เหลือ 2.8% หากเป็นไปตามคาด แสดงถึงตลาดแรงงานอ่อนและเงินเฟ้อควบคุมได้ จะยิ่งหนุนความคาดหวังลดดอกเบี้ย กดดันดอลลาร์และหนุนทอง แม้ข้อมูลจ้างงานดีขึ้นเล็กน้อยและเงินเฟ้อยังเหนียว ก็ไม่น่าจะเปลี่ยนภาพรวม ทำให้ทองเคลื่อนไหวในกรอบแคบ

นอกจากนี้ ความแตกต่างของนโยบายธนาคารกลางหลัก เช่น RBA, ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ และ BoJ ที่กลับสู่เส้นทางขึ้นดอกเบี้ย เป็นปัจจัยที่นักเทรดต้องติดตามเพื่อหาความเสี่ยงและโอกาสในการเทรดทอง