Gold Outlook: กระทิงและหมีต่อสู้กันอย่างสูสี รอจังหวะเบรกที่ชัดเจน

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ปัจจัยหนุนชั่วคราวมาจากความอ่อนแอเชิงโครงสร้างในตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกันยายนของสหรัฐ การเปลี่ยนท่าทีแบบผ่อนคลายของเจ้าหน้าที่เฟด และแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม การขาดข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญและความเห็นที่แตกต่างภายในเฟด ทำให้ตลาดไม่สามารถสร้างมุมมองที่ชัดเจน จำกัดโอกาสขาขึ้นของทองคำ

สัปดาห์นี้ตลาดจะจับตายอดขายปลีกและดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนกันยายน ซึ่งอาจเป็นตัวชี้นำสำคัญก่อนการประชุมเฟดเดือนธันวาคม และบอกทิศทางทองคำครั้งต่อไป

มุมมองทางเทคนิค: กระทิงและหมีสูสีความผันผวนระหว่างวันเพิ่มขึ้น

จากมุมมองเทคนิค XAUUSD เคลื่อนไหวส่วนใหญ่ระหว่าง $4,000 ถึง $4,130 ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไส้เทียนยาวซ้ำๆ ในกราฟรายวันสะท้อนการต่อสู้ที่สูสีระหว่างแรงซื้อและแรงขาย โดยความผันผวนระหว่างวันชัดเจนมากขึ้น

ในการเปิดตลาดวันจันทร์ ฝั่งหมีเป็นฝ่ายนำ ดันราคาทองลงใกล้เส้นแนวโน้มขาขึ้นที่สร้างตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญระยะสั้นของฝั่งกระทิง

หากเส้นแนวโน้มนี้ถูกเบรกอย่างชัดเจน ราคาทองอาจทดสอบระดับจิตวิทยาที่ $4,000 และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน ซึ่งอาจเป็นแนวรับชั่วคราวก่อนการปรับฐานลึกขึ้น

ในทางกลับกัน หากแรงซื้อกลับมาและความเชื่อมั่นระยะสั้นฟื้น จุดสำคัญของการขึ้นต่อคือการเบรกกรอบบนสัปดาห์ก่อนที่ $4,130 และจุดสูงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ $4,250

สัญญาณตลาดแรงงานผสมผสานและความเห็นเฟดที่แตกต่าง

แรงขับเคลื่อนหลักของทองคำยังคงเป็นความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งชัดเจนมากขึ้น

ด้านตลาดแรงงาน ข้อมูลมีความผันผวน ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 119,000 ตำแหน่ง สูงกว่าคาดที่ 50,000 แต่สองเดือนก่อนถูกปรับลดลงรวม 33,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานพุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีที่ 4.4% ขณะเดียวกัน ยอดขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง แต่ยอดต่อเนื่องยังเพิ่มขึ้น

สัญญาณที่ขัดแย้งกันนี้ทำให้ตลาดประเมินยากว่าตลาดแรงงานกำลังเย็นลงหรือผันผวน ส่งผลให้การคาดการณ์เส้นทางดอกเบี้ยของเฟดยากขึ้น

ความเห็นภายในเฟดก็แตกต่างมากขึ้น ตามรายงานการประชุมเดือนตุลาคม เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่เชื่อว่า “การลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอาจทำให้เงินเฟ้อฝังตัว” โดยสายเหยี่ยวอย่าง Collins และ Logan ย้ำมุมมองนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการเฟดนิวยอร์ก Williams กลับส่งสัญญาณผ่อนคลายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แนะว่ามีช่องว่างสำหรับการลดดอกเบี้ยระยะสั้น

Williams ซึ่งเป็นหนึ่งใน “สามเสาหลัก” ของเฟด มักมีท่าทีสายเหยี่ยว การส่งสัญญาณผ่อนคลายครั้งนี้ทำให้ตลาดปรับคาดการณ์โอกาสลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคมจาก 30% เป็นราว 70%

ซ้ำเติมสถานการณ์ ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญถูกเลื่อน รายงานจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนตุลาคมถูกยืนยันว่าถูกเลื่อน และรายงานเดือนพฤศจิกายนจะออกวันที่ 16 ธันวาคม ขณะที่ CPI เดือนตุลาคมถูกยกเลิก และ CPI เดือนพฤศจิกายนจะออกวันที่ 18 ธันวาคม หมายความว่าเฟดอาจต้องตัดสินใจประชุมเดือนธันวาคมโดยใช้ข้อมูลเดือนกันยายนที่ล้าสมัย

ความผสมผสานของสัญญาณแรงงานที่สับสน ช่องว่างข้อมูล และการปรับคาดการณ์ลดดอกเบี้ยอย่างแรง ทำให้ทิศทางทองคำระยะสั้นยากคาดเดา แต่ความไม่แน่นอนนี้ยังคงหนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ช่วยพยุงราคา

ขณะเดียวกัน ความคาดหวังลดดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นกดผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลง โดยพันธบัตร 2 ปีลดต่ำกว่า 3.5% เมื่อวันศุกร์ ซึ่งในทางทฤษฎีหนุนทองคำที่ไม่มีผลตอบแทน แต่ดอลลาร์ยังแข็งเหนือระดับ 100 จำกัดแรงขึ้นของทองคำ

ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังหนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย

ขณะที่ตลาดประเมินโอกาสลดดอกเบี้ยปลายปี ความคืบหน้าสงครามรัสเซีย-ยูเครนก็ถูกจับตา ล่าสุดสื่อสหรัฐรายงานว่าทีมทรัมป์เสนอแผนสันติภาพยูเครน 28 ข้อ ครอบคลุมประเด็นดินแดน การทหาร และการทูต

ในความเป็นจริง แผนนี้ยังห่างไกลการปฏิบัติ เนื้อหาต้องการการยอมรับครั้งใหญ่จากยูเครน สหภาพยุโรปแสดงความคัดค้าน และรัสเซียยืนยันว่ายังไม่ได้หารือรายละเอียดกับสหรัฐ ความคลุมเครือของแผนและเส้นทางปฏิบัติที่ไม่ชัดเจนทำให้ตลาดไม่มองว่าเป็นสัญญาณคลี่คลายความตึงเครียด

ท่ามกลางความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงอยู่ ความสงสัยต่อแนวโน้มสันติภาพยังสูง โอกาสความคืบหน้าระยะสั้นดูเป็นไปได้ยาก หนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยและช่วยพยุงราคาทองคำ

ยอดขายปลีกและ PPI สหรัฐ: อะไรจะเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนราคาทองคำ?

โดยรวม ทองคำยังเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบ สัญญาณข้อมูลที่ผสมผสานและการเลื่อนประกาศทำให้เทรดเดอร์ยากสร้างมุมมองชัดเจนต่อเส้นทางดอกเบี้ยเฟด จำกัดการเคลื่อนไหวตามเทรนด์ในระยะสั้น หากไม่มีปัจจัยเซอร์ไพรส์ ทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบจนกว่าจะถึงการประชุมเฟดครั้งต่อไป

สัปดาห์นี้ วันหยุด Thanksgiving ของสหรัฐทำให้วันซื้อขายสั้นลงและสภาพคล่องลดลง แม้ข้อมูลสำคัญมีจำกัด แต่ยอดขายปลีกและ PPI เดือนกันยายนเป็นตัวชี้สำคัญ เพราะสะท้อนสุขภาพเศรษฐกิจและแนวโน้มเงินเฟ้อโดยตรง ซึ่งมีผลต่อความคาดหวังตลาดและราคาทองคำ

ตลาดคาดว่ายอดขายปลีกเดือนกันยายนจะเพิ่มขึ้น 0.4% MoM ต่ำกว่าเดือนสิงหาคมที่ 0.6% ขณะที่ PPI YoY คาดว่าจะทรงตัวที่ 2.6%

หากยอดขายปลีกอ่อนและเงินเฟ้ออยู่ในระดับปานกลาง ความคาดหวังลดดอกเบี้ยอาจเพิ่มขึ้น ดันราคาทองไปใกล้ $4,100 ในทางกลับกัน หากข้อมูลแข็งแรง ความคาดหวังลดดอกเบี้ยอาจลดลง ทำให้ทองคำเสี่ยงหลุดต่ำกว่า $4,000